รับซ่อมตู้แช่ขอนแก่น

Posted on Posted in รับซ่อมตู้แช่, รับซ่อมตู้แช่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

รับซ่อมตู้แช่ขอนแก่น

ขอนแก่น เป็นจังหวัดที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นจังหวัดศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง เมืองขอนแก่นตั้งอยู่ในจุดที่ถนนมิตรภาพ (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2) และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 (ถนนสายเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก) ตัดผ่าน ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญในการเดินทางจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางเข้าไปสู่ภาคเหนือตอนล่างที่อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ และเดินทางเข้าสู่ประเทศลาวทางด้านทิศใต้ของลาว อาณาเขตทางทิศเหนือติดกับจังหวัดเลย จังหวัดหนองบัวลำภู และจังหวัดอุดรธานี ทิศตะวันออกติดกับจังหวัดมหาสารคามและจังหวัดกาฬสินธุ์ ทิศใต้ติดกับจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดนครราชสีมา ทิศตะวันตกติดกับจังหวัดชัยภูมิและจังหวัดเพชรบูรณ์ รับซ่อมตู้แช่ขอนแก่น

  • คำขวัญประจำจังหวัด : พระธาตุขามแก่น เสียงแคนดอกคูน ศูนย์รวมผ้าไหม ร่วมใจผูกเสี่ยว เที่ยวขอนแก่นนครใหญ่ ไดโนเสาร์สิรินธรเน่ สุดเท่เหรียญทองแรกมวยโอลิมปิก
  • ตราประจำจังหวัด : รูปพระธาตุตั้งอยู่บนตอมะขาม ขนาบสองข้างด้วยต้นไม้
  • ต้นไม้ประจำจังหวัด : ต้นกัลปพฤกษ์ (Cassia bakeriana)
  • ดอกไม้ประจำจังหวัด : ดอกราชพฤกษ์หรือดอกคูน (Cassia fistula)
  • สัตว์น้ำประจำจังหวัด : ปลาพรมหรือปลาตาแดง (Osteochilus melanopleurus)
  • วิสัยทัศน์จังหวัด : ขอนแก่นเมืองน่าอยู่ มุ่งสู่มหานครแห่งอาเซียน
  • ลักษณะรูปร่างของจังหวัด : ลักษณะรูปร่างของจังหวัดขอนแก่นมีรูปร่างคล้ายกับไม้ตะขอที่ใช้คล้องช้าง

ประวัติศาสตร์

การตั้งถิ่นฐาน
แม้ขอนแก่นจะเป็นบ้านเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่เมื่อราวร้อยกว่าปีมานี้ก็ตาม แต่ในอดีตกาลยุคก่อนประวัติศาสตร์ ในบริเวณเขตจังหวัดขอนแก่นเคยมีชุมชนก่อนประวัติศาสตร์ได้เข้ามาอาศัยก่อนแล้ว เช่น การค้นพบแหล่งโบราณคดีที่บ้านโนนนกทา อำเภอภูเวียง พบว่ามีเครี่องปั้นดินเผาที่มีอายุยาวนาน ต่อมาชุมชนเหล่านี้กลายเป็นเมืองขึ้นในสมัยทวารวดี ก่อนที่ขอมจะมามีอำนาจในดินแดนส่วนนี้ เช่น พบแหล่งโบราณคดีที่วัดศรีเมืองแอม อำเภอเขาสวนกวาง ซึ่งปรากฏจารึกศรีเมืองแอมที่ขอมได้เข้ามามีอำนาจในดินแดนส่วนนี้หรือที่ปรากฏเป็นปรางค์กู่ต่าง ๆ ในเขตจังหวัดขอนแก่น เป็นต้น

ประวัติศาสตร์ พื้นที่ส่วนนี้ยังเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ กระจัดกระจายกันตามพื้นที่ราบสูง ในปี พ.ศ. 2322 ขณะนั้นเมืองเวียงจันทน์ได้เกิดเหตุพิพาทกับกลุ่มของเจ้าพระวอจนถึงกับยกทัพไปตีค่ายของเจ้าพระวอแตกที่บ้านดอนมดแดง (อุบลราชธานีปัจจุบัน) และจับเจ้าพระวอประหารชีวิต สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงถือว่าฝ่ายเจ้าพระวอเป็นข้าขอบขัณฑสีมาของไทยจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกกับเจ้าพระยาสุรสีห์ยกทัพขึ้นไปตีเวียงจันทน์ จากนั้นจึงได้ยกทัพกลับมายังกรุงเทพมหานคร พร้อมกับได้อัญเชิญพระแก้วมรกต พระพุทธปฏิมากร และพระบางกลับมาถวายแต่สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีด้วย

เจ้าแก้วบุฮม (แก้วบรม) กับพระยาเมืองแพน (หรือเพี้ยเมืองแพน) สองพี่น้อง ซึ่งเป็นโอรสของเจ้าแสนปัจจุทุม (ท้าวแสนแก้วบุฮม) ได้ยกกองทัพจากบ้านเพี้ยปู่ เขตแขวงเมืองทุละคม (ธุระคม) ซึ่งขึ้นกับเมืองเวียงจันทน์ในทุกวันนี้ ข้ามแม่น้ำโขงมาตั้งถิ่นฐานที่อยู่บ้านโพธิ์ตาก (บ้านโพธิ์ตาก ตำบลบ้านกง อำเภอเมืองขอนแก่น) และบ้านยางเดี่ยว บ้านโพธิ์ศรี (บ้านโพธิ์ศรี ตำบลบ้านโนน อำเภอกระนวน) บ้านโพธิ์ชัย (บ้านโพธิ์ชัย อำเภอมัญจาคีรี) เมืองมัญจาคีรีหรืออำเภอมัญจาคีรี ปรากฏอยู่ในทำเนียบมณฑลอุดร กล่าวว่า เมื่อ พ.ศ. 2433 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งเมืองขึ้นชื่อเมืองมัญจาคีรี โดยมีจางวางเอกพระยาพฤติคุณธนเชษ (สน สนธิสัมพันธ์) เป็นเจ้าเมืองคนแรกเมื่อ พ.ศ. 2433-2439 เจ้าเมืองคนที่ 2 คือ พระเกษตรวัฒนา (โส สนธิสัมพันธ์) เมื่อ พ.ศ. 2439-2443 และมีปรากฏประวัติเมืองมัญจาคีรีในหนังสือประวัติจังหวัดในประเทศไทย ในห้องสมุดของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) บ้านสร้าง บ้านชีโหล่น (อยู่ในเขตเมืองสุวรรณภูมิ อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ดปัจจุบัน)

ในปัจจุบัน บางบ้านก็อยู่ในเขตอำเภอเมืองขอนแก่น บางบ้านก็อยู่ในเขตอำเภอน้ำพอง บางบ้านก็อยู่ในเขตอำเภออาจสามารถ (จังหวัดร้อยเอ็ด) บางบ้านก็อยู่ในเขตจังหวัดยโสธร บางบ้านก็อยู่ที่อำเภอมัญจาคีรี และบางบ้านก็อยู่ที่อำเภอคำเขื่อนแก้ว (จังหวัดยโสธร) เป็นต้น ทั้งนี้เป็นเพราะได้มีการเปลี่ยนแปลงเขตเมืองในสมัยหลัง ๆ ต่อมานั่นเอง

เจ้าแก้วบุฮมได้อพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านโพธิ์ชัย พระยาเมืองแพนอพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่ในบ้านชีโหล่น คุมไพร่พลคนละ 500 คน ขึ้นกับเมืองท่งหรือเมืองสุวรรณภูมิ ครั้นต่อมาอีกราว 9 ปี ในปี พ.ศ. 2331 เพี้ยเมืองแพนก็ได้พาราษฎรและไพร่พลประมาณ 330 คน ขอแยกตัวออกจากเมืองสุวรรณภูมิไปตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ฝั่งบึงบอน ยกขึ้นเป็นเมืองที่บ้านดอนพยอมเมืองเพี้ย (ปัจจุบันคือ บ้านเมืองเพีย ตำบลเมืองเพีย อำเภอบ้านไผ่)

บึงบอนหรือดอนพยอมในปัจจุบันได้ตื้นเขินเป็นที่นาไปหมดแล้ว แต่ก็ยังปรากฏเป็นรูปของบึงซึ่งมีต้นบอนขึ้นอยู่มากมาย ต่อมาก็ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เมืองแพนเป็นพระนครศรีบริรักษ์ เจ้าเมืองขอนแก่น ดังปรากฏข้อความในพงศาวดารหัวเมืองมณฑลอีสานของหม่อมอมรวงศ์วิจิตรว่า

เอกสารพงศาวดารอีสานฉบับพระยาขัติยวงศา (เหลา ณ ร้อยเอ็ด) ได้กล่าวถึงการตั้งเมืองขอนแก่นว่า

....ได้ทราบข่าวว่าเมืองแพน บ้านชีโล่น แขวงเมืองสุวรรณภูมิ พาราษฎร ไพร่พลประมาณ 330 คน แยกจากเมืองสุวรรณภูมิไปขอตั้งฝั่งบึงบอนเป็นเมือง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เมืองแพนเป็นพระนครศรีบริรักษ์ ผู้ว่าราชการเมืองขอนแก่น...” ขอนแก่นจึงได้ที่มาว่าเป็นเมืองคู่กับมหาสารคามนั้นเอง

การย้ายถิ่นฐานเมืองขอนแก่น
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อ พ.ศ. 2339 ได้มีการย้ายเมืองขอนแก่นไปตั้งอยู่ที่บ้านหนองเหล็ก (ตำบลแพง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ในปัจจุบัน) โดยได้ขอขึ้นตรงกับกรุงเทพมหานคร คือจะขอส่งส่วยต่อกรุงเทพมหานครโดยตรง ไม่ผ่านเมืองสุวรรณภูมิ เพราะให้เหตุผลว่า บ้านดอนพยอมเมืองเพี้ยอยู่ใกล้กับแขวงเมืองนครราชสีมา ซึ่งก็เป็นจริง เพราะอยู่ใกล้กับเมืองชนบทอันเป็นแขวงเมืองนครราชสีมาอยู่ขณะนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว เข้าใจว่าเจ้าเมืองในขณะนั้นอยากจะแยกตัวออกเป็นอิสระ คืออยากจะแยกออกมาเป็นเมืองใหญ่อีกต่างหาก การย้ายเมืองครั้งนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท้าวคำบัง (บุตรเจ้าแก้วบุฮม) เป็นพระนครศรีบริรักษ์ เจ้าเมืองขอนแก่นต่อมา

ในปี พ.ศ. 2352 ได้ย้ายเมืองจากบ้านหนองเหล็กไปตั้งเมืองอยู่ที่บ้านดอนพันชาด (เขตตำบลบ้านแพง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม) พระนครศรีบริรักษ์ (คำบ้ง) ได้ถึงแก่กรรม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าราชบุตร (ท้าวคำยวง) น้องชายของพระนครศรีบริรักษ์ (คำบ้ง) ซึ่งมีความดีความชอบจากการไปราชการสงคราม ขับไล่กองทัพพม่าออกไปจากเมืองเชียงใหม่ในขณะนั้น เป็นที่ “พระนครศรีบริรักษ์ บรมราชภักดี ศรีศุภสุนทร” เจ้าเมืองขอนแก่น

ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ. 2381 เมืองขอนแก่นก็ได้ย้ายจากบ้านดอนพันชาดไปตั้งอยู่ที่ริมฝั่งบึงพระลับโนนทอง คือบ้านเมืองเก่า ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่นในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อก่อนเรียกว่า "บ้านโนนทอง" ต่อมาเมื่อย้ายเมืองไปอยู่ที่นั่น จึงเรียกว่าบ้านเมืองเก่า สาเหตุที่ย้ายเมืองนั้นเล่ากันว่า เกิดการแย่งราษฎรไพร่พลขึ้น และเกิดแผ่นดินแยกที่ถนนกลางเมือง มีโรคภัยไข้เจ็บผู้คนล้มป่วยกันมาก จึงถือว่าที่ตรงนั้นไม่เป็นมงคลต่อการอยู่อาศัย จึงย้ายเมืองอีกครั้งหนึ่ง จากบึงพระลับโนนทองไปตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกที่บ้านโนนทัน (อยู่ในตำบลพระลับ อำเภอเมืองขอนแก่นปัจจุบัน) ในปี พ.ศ. 2398 พอดีพระนครศรีบริรักษ์ (คำยวง) ได้ถึงแก่อนิจกรรม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท้าวอินธิวงษ์ บุตรคนเล็กของพระยานครศรีบริรักษ์ เป็นเจ้าเมืองขอนแก่น เพราะมีวิชาความรู้ดีกว่าพี่ชายคนอื่น ๆ โดยได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระยาในราชทินนามเดิมของบิดาสืบมา

ต่อมาในปี พ.ศ. 2407 ท้าวอินธิวงษ์เจ้าเมืองขอนแก่นได้ถึงแก่อนิจกรรมลงอีก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท้าวคำบุ่ง (พี่ชายท้าวอินธิวงษ์) ผู้เป็นอุปฮาดแต่เดิมให้เป็นเจ้าเมืองขอนแก่นสืบแทนน้องชายต่อมาอีก 3 ปี เพราะชราภาพมากแล้ว

ในปี พ.ศ. 2410 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท้าวอุ (ราชบุตร) ซึ่งเป็นหลานท้าวอินธิวงษ์ (พระยานครศรีบริรักษ์) ขึ้นเป็นเจ้าเมืองขอนแก่น และได้ย้ายเมืองขอนแก่นจากบ้านโนนทันกลับไปตั้งอยู่ที่บ้านเมืองเก่าอีก (บ้านโนนทองเดิม) พอถึงปี พ.ศ. 2413 ก็ได้ย้ายเมืองขอนแก่นจากบ้านเมืองเก่าไปตั้งอยู่ที่บ้านดอนบม (บ้านดอนบม ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองขอนแก่น) แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชทานบรรดาศักดิ์ท้าวอุ (ราชบุตร) เจ้าเมืองขอนแก่นในขณะนั้น เป็นพระนครศรีบริรักษ์ และให้ท้าวหนูหล้า บุตรคนเล็กของท้าวอินธิวงษ์ เป็นปลัดเมืองขอนแก่น (หรืออุปฮาด)

ในปี พ.ศ. 2439 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เปลี่ยนการปกครองหัวเมืองไกลใหม่ โดยเปลี่ยนเป็นบริเวณหัวเมืองลาวฝ่ายเหนือ ให้เป็นหัวเมืองลาวพวน ดังนั้น เมืองขอนแก่นจึงอยู่ภายใต้การปกครองของเมืองอุดรธานี หรือมณฑลอุดรธานี โดยมีกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมเป็นผู้ปกครองมณฑล ในสมัยนั้นได้มีสายโทรเลข ที่เดินจากเมืองนครราชสีมา ผ่านเมืองชนบท เข้าเขตเมืองขอนแก่นข้ามลำน้ำชีที่ท่าหมากทัน ตรงไปท่าพระ บ้านทุ่ม โดยไม่เข้าเมืองขอนแก่น และตรงไปข้ามลำน้ำพองไปบ้านหมากแข้งเมืองอุดรธานี ศูนย์กลางมณฑลอุดร กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม (ผู้ปกครองมณฑลอุดรธานีในขณะนั้น) ซึ่งเป็นข้าหลวงใหญ่ประจำมณฑลอุดรธานีทรงดำริว่า ที่ว่าการเมืองขอนแก่นที่ตั้งอยู่ที่บ้านดอนบม ไม่สะดวกแก่ราชการ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ย้ายเมืองขอนแก่นไปตั้งอยู่ที่บ้านทุ่ม (อำเภอเมืองขอนแก่นในปัจจุบัน) ในปลาย พ.ศ. 2439 และเปลี่ยนนามตำแหน่งเจ้าเมืองเป็นผู้ว่าราชการเมือง และตั้งชื่อเมืองว่า "ขอนแก่น" จนถึงปัจจุบัน

ในปี พ.ศ. 2440 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชทานบรรดาศักดิ์ท้าวหนูหล้าปลัดเมืองขอนแก่นเป็นพระพิทักษ์สารนิคม และในปี พ.ศ. 2441 ก็ได้ย้ายเมืองขอนแก่นจากบ้านทุ่มกลับไปตั้งอยู่ที่บ้านเมืองเก่าตามเดิม โดยตั้งศาลากลางขึ้นที่ริมบึงเมืองเก่าทางด้านเหนือ (หน้าสถานีโทรทัศน์ในปัจจุบัน) ด้วยเหตุผลที่ว่า บ้านทุ่มนั้นกันดารน้ำในฤดูแล้ง

ในปี พ.ศ. 2444 ทางราชการได้เกณฑ์แรงงานของราษฎรที่เคยหลงผิดไปเชื่อผีบุญ-ผีบาป ที่เขตแขวงเมืองอุบลราชธานีในตอนนั้น โดยให้พากันมาช่วยสร้างทำนบกั้นน้ำขึ้นเป็นถนนรอบบึงเมืองเก่า เพื่อกักน้ำไว้ใช้สอยในฤดูแล้ง เพราะบึงนี้เป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของชาวเมืองขอนแก่น

ต่อมาในปี พ.ศ. 2447 พระนครบริรักษ์ (อุ นครศรี) เจ้าเมืองขอนแก่น ได้กราบถวายบังคมลาออกจากราชการ เหตุเพราะชราภาพ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนตำแหน่งพระพิทักษ์สารนิคม (หนูหล้า สุนทรพิทักษ์) ปลัดเมืองขอนแก่นขึ้นเป็นเจ้าเมืองขอนแก่น และในปีนั้นเอง ก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เปลี่ยนนามตำแหน่งข้าหลวงประจำเมืองขอนแก่นเป็นข้าหลวงประจำบริเวณพาชี ส่วนเมืองต่าง ๆ ที่ขึ้นต่อนั้น ก็ให้เปลี่ยนเป็นอำเภอ และผู้เป็นเจ้าเมืองนั้น ๆ ก็ให้เปลี่ยนเป็นนายอำเภอ ตำแหน่งอุปฮาดก็เป็นปลัดอำเภอไป แต่ขึ้นตรงต่อเมืองอุดรธานี มณฑลอุดรธานีในขณะนั้น

ต่อมาในวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2459 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกเลิกระบบมณฑลในประเทศ ให้เปลี่ยนคำว่าเมืองเป็นจังหวัดแทน ตำแหน่งผู้ว่าราชการเมืองจึงกลายเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด และศาลาว่าการเมืองก็เปลี่ยนมาเป็นศาลากลางจังหวัด นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาขอนแก่นจึงได้กำเนิดเป็น "จังหวัดขอนแก่น"

ที่มาของชื่อขอนแก่น
เหตุที่เมืองนี้มีนามว่า เมืองขอนแก่นนั้นได้มีตำนานแต่โบราณเล่าขานสืบต่อกันมาว่า ก่อนที่เพี้ยเมืองแพนจะอพยพไพร่พลมาตั้งบ้านตั้งเมืองขึ้นนั้น ปรากฏว่าบ้านขาม หรือตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพองปัจจุบัน ซึ่งเป็นเขตแขวงร่วมการปกครองกับบ้านชีโล้น มีตอมะขามขนาดใหญ่ที่ตายไปหลายปีแล้ว กลับมีใบงอกงามเกิดขึ้นใหม่อีก และหากผู้ใดไปกระทำมิดีมิร้ายหรือดูถูกดูหมิ่น ไม่ให้ความเคารพยำเกรง ก็จะมีอันเป็นไปในทันทีทันใด เป็นที่น่าประหลาดและมหัศจรรย์ยิ่งนัก

ดังนั้น บรรดาชาวบ้านชาวเมืองในแถบถิ่นนั้นจึงได้พร้อมใจกันก่อเจดีย์ครอบตอมะขามนั้นเอาไว้เสีย เพื่อให้เป็นที่สักการะของคนทั่วไป พร้อมกับได้บรรจุพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า 9 บทเข้าไว้ในเจดีย์ครอบตอมะขามนั้นด้วย ซึ่งเรียกว่า พระเจ้า 9 พระองค์ แต่เจดีย์ที่สร้างในครั้งแรกเป็นรูปปรางค์ หลังจากได้ทำการบูรณะใหม่เมื่อราว 50 ปีที่ผ่านมานี้ จึงได้เปลี่ยนเป็นรูปทรงเจดีย์ และมีนามว่า พระธาตุขามแก่น ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตวัดเจติยภูมิ บ้านขาม ตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น พระเจดีย์ขามแก่นถือว่าเป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวจังหวัดขอนแก่น ซึ่งจะมีงานพิธีบวงสรวง เคารพสักการะกันในวันเพ็ญเดือน 6 ทุกปี

ส่วนทางด้านทิศตะวันตกของเจดีย์พระธาตุขามแก่นนั้น มีซากโบราณที่ปรักหักพังปรากฏอยู่ โดยอยู่ห่างจากเจดีย์ราว 15 เส้น หรืออยู่คนละฟากทุ่งของบ้านขาม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริเวณแถบนี้น่าจะเป็นที่ตั้งของเมืองมาก่อน แต่ได้ร้างไปนาน ดังนั้น จึงได้ถือเอานิมิตนี้มาตั้งนามเมืองว่าขามแก่น แต่ต่อมาจึงเรียกเพี้ยนมาเป็นเมืองขอนแก่น จนกระทั่งทุกวันนี้

 
การปกครองแบ่งออกเป็น 26 อำเภอ 199 ตำบล 2331 หมู่บ้าน

อำเภอเมืองขอนแก่น
อำเภอบ้านฝาง
อำเภอพระยืน
อำเภอหนองเรือ
อำเภอชุมแพ
อำเภอสีชมพู
อำเภอน้ำพอง
อำเภออุบลรัตน์
อำเภอกระนวน
อำเภอบ้านไผ่
อำเภอเปือยน้อย
อำเภอพล
อำเภอแวงใหญ่
อำเภอแวงน้อย
อำเภอหนองสองห้อง
อำเภอภูเวียง
อำเภอมัญจาคีรี
อำเภอชนบท
อำเภอเขาสวนกวาง
อำเภอภูผาม่าน
อำเภอซำสูง
อำเภอโคกโพธิ์ไชย
อำเภอหนองนาคำ
อำเภอบ้านแฮด
อำเภอโนนศิลา
อำเภอเวียงเก่า

บริการ ซ่อม ( ส่วนที่พักอาศัย และครัวเรือน )
           1 ตู้เย็น แบบ ประตูเดียว ตั้งแต่ ขนาด 2 Q.ft - 6 Q.ft
           2 ตู้เย็น แบบ 2 - 3 ประตู ชนิด No Frost (ละลายนำ้แข็งอัตโนมัติ )
           3 ตู้เย็น แบบ 2 - 3 ประตู แบบเปิด ซ้าย - ขวา ( Sight by Sight ) 15 Q.ft - 25 Q.ft
           4 ตู้แช่ นอน ความเย็นต่ำ - 10 C - -40 C
           5 ตู้แช่ ไวน์ และ ห้องเก็บ ไวน์

บริการ ซ่อม ( ส่วนร้านค้า มินิมาร์ท ห้องอาหาร ภัตตาคาร ร้านกาแฟ )
          1 ตู้แช่น้ำดื่ม มินิมาร์ท 2 - 3 ประตู
          2 ตู้แช่ ผัก ผลไม้ อาหารสด
          3 ตู้แช่ ความเย็นต่ำ เช่น เนื้อสัตว์ อาหารทะเล
          4 ตู้แช่เค็ก ตู้โชว์เค็ก - ขนม ตู้แช่ไวน์
          5 ห้องเย็น ความเย็นต่ำ - 5 C - - 40 C

บริการ ซ่อม ( ส่วนโรงงานอุตสาหกรรม )
          1 ตู้แช่น้ำดื่ม 2 ก๊อก - 6 ก๊อก
          2 ตู้แช่ ผัก ผลไม้ และอาหาร แบบแสตนเลส ทุกรุ่นทุกแบบ

บริการ ซ่อม ติดตั้ง และจำหน่าย เครื่องปรับอากาศ
          1 เครื่องปรับอากาศ ทุกชนิด ทุกแบบที่ใช้ในที่พักอาศัย อาคารพานิชย์ สำนักงาน
          2 เครื่องปรับอากาศ ในโรงงานอุตสาหกรรม ตั้งแต่ขนาด 1 - 50 TON
          3 เครื่องผลิตน้ำเย็นเลี้ยงเครื่องจักร ( Chilled Machine )
          4 เครื่องปรับอากาศ และอุปกรณ์ทำความเย็น ในเรือยอช์ท เรือใบสำราญ ตามแหล่งท่องเที่ยวชายทะเล

บริการ ซ่อม (เครื่องมือ ทดสอบ ทดลอง ทางการแพทย์ อุตสาหกรรม และวิทยาศาสตร์ )
          1 อุปกรณ์ทางการศึกษา การแพทย์ ห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์
          2 อุปกรณ์เครื่องมือวัด ทดสอบ ทางวิทยาศาสตร์ และอุตสาหกรรม

สิ่งที่ควรรู้ก่อนแจ้งซ่อมกับสยามคูลลิ่ง

ข้อมูลเบื้องต้น ที่ลูกค้าหรือผู้ควบคุมอุปกรณ์ พึงทราบ

1   ประเภท ชนิด  แบบ ของ อุปกรณ์หรือเครื่องใข้ที่มีเหตุขัดข้อง  เช่น  ตู้เย็น  ตู้แช่  แอร์  เครื่องผลิตน้ำเย็น - น้ำแข็ง  ห้องเย็น

 2  วัตถุประสงค์  การใช้งาน   ใช้แช่ น้ำ  อาหารสด  หรือ  เก็บวัสดุอื่นๆ

 3  ยี่ห้อ  หรือ  ผู้ผลิต      รุ่น  ( Model )

 4  อาการเสียเบื้องต้น  เช่น  ไม่เย็นเลย  เย็นไม่ดี  มีเสียงดังผิดปกติ  ฯลฯ

 5  รูปถ่าย    ( ส่งทาง E.mail  หรือ ทาง  Line   E.mail :  pakee53@gmail.com   ID. Line  psa2015 )

                             5.1     รูปถ่าย ชนิด เต็มรูป

                             5.2     รูปถ่าย  Name Plate  แสดง  รุ่น ( model ) & specification  ของเครื่อง  ( ถ้ามี )

                             5.3     รูปถ่าย  อะไหล่ อุปกรณ์  หรือส่วนที่คาดว่าจะเสีย   (  ถ้ามี  )  

 6  ชื่อ  ที่อยู่  หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อกลับ

เขตพื้นที่ให้บริการของเราครอบคลุมทั่วเขตกรุงเทพและปริมลฑล พร้อมบริการรับส่งถึงบ้านท่าน !!!

รับซ่อมตู้แช่ปทุมธานี รับซ่อมตู้แช่นนทบุรี รับซ่อมตู้แช่สมุทรปราการ
รับซ่อมตู้แช่บางบอน รับซ่อมตู้แช่ทุ่งครุ รับซ่อมตู้แช่ทวีวัฒนา รับซ่อมตู้แช่บางนา รับซ่อมตู้แช่คลองสามวา รับซ่อมตู้แช่วังทองหลาง รับซ่อมตู้แช่สะพานสูง รับซ่อมตู้แช่คันนายาว รับซ่อมตู้แช่สายไหม รับซ่อมตู้แช่หลักสี่ รับซ่อมตู้แช่บางแค รับซ่อมตู้แช่วัฒนา รับซ่อมตู้แช่ลาดพร้าว รับซ่อมตู้แช่ราชเทวี รับซ่อมตู้แช่ดอนเมือง รับซ่อมตู้แช่จอมทอง รับซ่อมตู้แช่สวนหลวง รับซ่อมตู้แช่คลองเตย รับซ่อมตู้แช่ประเวศ รับซ่อมตู้แช่บางคอแหลม รับซ่อมตู้แช่จตุจักร รับซ่อมตู้แช่บางซื่อ รับซ่อมตู้แช่สาทร รับซ่อมตู้แช่บึงกุ่ม รับซ่อมตู้แช่ดินแดง รับซ่อมตู้แช่บางพลัด รับซ่อมตู้แช่ราษฎร์บูรณะ รับซ่อมตู้แช่หนองแขม รับซ่อมตู้แช่ภาษีเจริญ รับซ่อมตู้แช่บางขุนเทียน รับซ่อมตู้แช่บางกอกน้อย รับซ่อมตู้แช่ตลิ่งชัน รับซ่อมตู้แช่คลองสาน รับซ่อมตู้แช่ห้วยขวาง รับซ่อมตู้แช่บางกอกใหญ่ รับซ่อมตู้แช่ธนบุรี รับซ่อมตู้แช่พญาไท รับซ่อมตู้แช่สัมพันธวงศ์ รับซ่อมตู้แช่ยานนาวา รับซ่อมตู้แช่ลาดกระบัง รับซ่อมตู้แช่พระโขนง รับซ่อมตู้แช่ปทุมวัน รับซ่อมตู้แช่บางกะปิ รับซ่อมตู้แช่บางเขน รับซ่อมตู้แช่บางรัก รับซ่อมตู้แช่หนองจอก รับซ่อมตู้แช่ดุสิต รับซ่อมตู้แช่พระนคร รับซ่อมตู้แช่ป้อมปราบศัตรูพ่าย รับซ่อมตู้แช่มีนบุรี

รับซ่อมตู้แช่ต่างจังหวัด

รับซ่อมตู้แช่อุตรดิตถ์ : รับซ่อมตู้แช่ลำพูน : รับซ่อมตู้แช่ลำปาง : รับซ่อมตู้แช่แม่ฮ่องสอน : รับซ่อมตู้แช่แพร่ : รับซ่อมตู้แช่พะเยา : รับซ่อมตู้แช่น่าน : รับซ่อมตู้แช่เชียงใหม่ : รับซ่อมตู้แช่เชียงราย : รับซ่อมตู้แช่ยะลา : รับซ่อมตู้แช่สุราษฎร์ธานี : รับซ่อมตู้แช่สงขลา : รับซ่อมตู้แช่สตูล : รับซ่อมตู้แช่ระนอง : รับซ่อมตู้แช่ภูเก็ต : รับซ่อมตู้แช่พัทลุง : รับซ่อมตู้แช่พังงา : รับซ่อมตู้แช่ปัตตานี : รับซ่อมตู้แช่นราธิวาส : รับซ่อมตู้แช่นครศรีธรรมราช : รับซ่อมตู้แช่ตรัง : รับซ่อมตู้แช่ชุมพร : รับซ่อมตู้แช่กระบี่ : รับซ่อมตู้แช่ราชบุรี : รับซ่อมตู้แช่เพชรบุรี : รับซ่อมตู้แช่ประจวบคีรีขันธ์ : รับซ่อมตู้แช่ตาก : รับซ่อมตู้แช่กาญจนบุรี : รับซ่อมตู้แช่สระแก้ว : รับซ่อมตู้แช่ระยอง : รับซ่อมตู้แช่ปราจีนบุรี : รับซ่อมตู้แช่ตราด : รับซ่อมตู้แช่ชลบุรี : รับซ่อมตู้แช่ฉะเชิงเทรา : รับซ่อมตู้แช่จันทบุรี : รับซ่อมตู้แช่อุทัยธานี : รับซ่อมตู้แช่อ่างทอง : รับซ่อมตู้แช่สระบุรี : รับซ่อมตู้แช่สุพรรณบุรี : รับซ่อมตู้แช่สุโขทัย : รับซ่อมตู้แช่สิงห์บุรี : รับซ่อมตู้แช่สมุทรสาคร : รับซ่อมตู้แช่สมุทรสงคราม : รับซ่อมตู้แช่สมุทรปราการ : รับซ่อมตู้แช่ลพบุรี : รับซ่อมตู้แช่เพชรบูรณ์ : รับซ่อมตู้แช่พิษณุโลก : รับซ่อมตู้แช่พิจิตร : รับซ่อมตู้แช่อยุธยา : รับซ่อมตู้แช่ปทุมธานี : รับซ่อมตู้แช่นนทบุรี : รับซ่อมตู้แช่นครปฐม : รับซ่อมตู้แช่นครนายก : รับซ่อมตู้แช่ชัยนาท : รับซ่อมตู้แช่กำแพงเพชร : รับซ่อมตู้แช่อำนาจเจริญ : รับซ่อมตู้แช่อุบลราชธานี : รับซ่อมตู้แช่หนองบัวลำภู : รับซ่อมตู้แช่หนองคาย : รับซ่อมตู้แช่ศรีสะเกษ : รับซ่อมตู้แช่สุรินทร์ : รับซ่อมตู้แช่สกลนคร : รับซ่อมตู้แช่เลย : รับซ่อมตู้แช่ร้อยเอ็ด : รับซ่อมตู้แช่ยโสธร : รับซ่อมตู้แช่มุกดาหาร : รับซ่อมตู้แช่มหาสารคาม : รับซ่อมตู้แช่บุรีรัมย์ : รับซ่อมตู้แช่บึงกาฬ : รับซ่อมตู้แช่นครราชสีมา-รับซ่อมตู้แช่โคราช : รับซ่อมตู้แช่นครพนม : รับซ่อมตู้แช่ชัยภูมิ : รับซ่อมตู้แช่ขอนแก่น : รับซ่อมตู้แช่กาฬสินธุ์ : รับซ่อมตู้แช่อุดรธานี : รับซ่อมตู้แช่นครสวรรค์